Take Profit หรือที่เทรดเดอร์เรียกย่อ ๆ ว่า TP คือสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่เทรดเดอร์ทุกคนจะต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เชื่อว่าหลายคนอาจจะมองข้ามไปเลย เพราะส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาโฟกัสกับการหาจุดเข้า หรือระบบเทรดขั้นเทพ เพื่อให้ได้มาซึ่งออเดอร์ที่ทำกำไร แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าหากว่า เข้าเทรดได้แม่นแต่ปิดทำกำไรไม่ได้ และท้ายที่สุดต้องมานั่งช้ำใจซ้ำ ๆ ว่า รู้งี้ ปิดทำกำไรตั้งแต่ตอนนั้นดีกว่า ถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้ มีวิธีแก้ง่าย ๆ ตามมาดูเลย
Take Profit คืออะไร สิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม
Take Profit คือ จุดปิดออเดอร์เพื่อทำกำไร เมื่อเข้าออเดอร์ถูกทาง สิ่งหนึ่งที่จะต้องทำนั่นก็คือ หาจุดปิดทำกำไร แต่เชื่อไหมว่าเทรดเดอร์หลายคน เข้าเทรดเป็น วิเคราะห์ได้ แต่มักจะตกม้าตายเพราะปิดทำกำไรไม่ได้
การตั้งจุด Take Profit คือ สิ่งที่สามารถนำมาแก้ปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เพราะการดูกราฟเป็นอะไรที่ง่ายมาก ที่จะโดนอารมณ์ความโลภเข้าครอบงำ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากว่าเทรดเดอร์ไม่ตั้ง Take Profit ไว้ เมื่อเห็นกราฟเคลื่อนที่ไปตามทิศทางที่ได้วิเคราะห์ไว้ และออเดอร์ก็กำลังบวก ก็จะมีความคิดหนึ่งเกิดขึ้นก็คือว่า มันน่าจะยังไปต่อได้อีก ปล่อยให้บวกไปเรื่อย ๆ ดีกว่า อย่าเพิ่งปิดเลย
ในที่สุดกราฟก็มีแรงซื้อหรือแรงขายกลับมาอย่างรวดเร็ว เทรดเดอร์จึงเกิดความเสียดาย รู้งี้ปิดทำกำไรตั้งแต่จุดนั้นแล้ว ดังนั้น การใช้ Take Profit คือ การปิดทำกำไรที่ได้วางแผนไว้ตามระบบ ไม่ใช่การปิดทำกำไรโดยที่ไม่มีเหตุผลรองรับ เพราะเหตุผลที่เกิดขึ้นหลังจากวางแผนในตอนแรก อาจจะเป็นเพียงอารมณ์หรือความโลภที่เข้าครอบงำก็เป็นได้
ไม่มีเทรดเดอร์คนไหนที่อยากจะได้กำไรน้อย แต่ได้น้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้จริงไหม การใช้Take Profit คือ การปิดกำไรตามระบบ แม้บางครั้งอาจจะมองว่าได้น้อยกว่าที่ปล่อยให้ออเดอร์ได้วิ่งต่อ แต่ก็ยังเป็นการรักษาวินัยของเทรดเดอร์เอง ให้ทำตามแผนที่วางไว้ เพราะถ้าละเมิดแผนของตัวเองเมื่อไหร่ ครั้งต่อ ๆ ไปก็จะเริ่มละเมิดอีก และจะนำมาซึ่งความเสียหายในอนาคตอย่างแน่นอน
ใช้ Take Profit อย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด
1. ในจุดที่คาดว่าราคาจะไปถึง การตั้ง Take Profit ที่ดีคือ จุดที่คาดว่าราคาจะไปถึงและจะไม่สามารถไปต่อได้ หรือคาดว่าอาจจะเกิดบางสิ่งบางอย่างบริเวณนั้น เช่น ไปถึงแล้วอาจจะเด้งกลับในทันที เป็นต้น
2. ใช้ตามแผน การเทรดที่ดีจะต้องมีแผนก่อนเทรดทุกครั้ง และบริเวณที่ตั้ง Take Profit ก็จะต้องถูกคิด วิเคราะห์เอาไว้แล้วอย่างดีแล้ว ว่าเป็นจุดที่จะไม่พลาดในการทำกำไร
3. ไม่เลื่อนหนี กฎข้อสำคัญที่หลายคนพลาดคือการเลื่อน Take Profit ออกไปเรื่อย ๆ เพราะอยากได้กำไรที่มากยิ่งขึ้น และสิ่งนี้จะทำให้เทรดเดอร์เสียวินัย เพราะถ้าได้วางแผนไว้ดีแล้ว นั่นก็แสดงว่าเป็นจุดที่ดีที่สุด ก็ควรที่จะทำตามแผนที่วางไว้ ห้ามเลื่อนหนีเด็ดขาด
4. หวังกำไรมากกว่าขาดทุน เทรดเดอร์ทุกคนล้วนก็หวังกำไรมากกว่าขาดทุนอยู่แล้ว แต่ในข้อนี้หมายถึง ทุกออเดอร์ที่เปิด จะต้องมีโอกาสทำกำไรมากกว่าขาดทุน โดยโอกาสทำกำไรนั้นจะต้องมากกว่าผิดทาง 2-3 เท่าแม้จะมีสัญญาณในการเข้าที่ดี แต่โอกาสทำกำไรน้อยก็ไม่ควรเสี่ยง
5. ระวังจุดที่มีนัยสำคัญ และการตั้ง Take Profit ก็ต้องระวังด้วยว่า ในจุดที่ตั้งไว้ในระหว่างนั้น มีแนวรับแนวต้านหรือไม่ ควรตั้งก่อนที่จะถึงแนวรับแนวต้าน ไม่ใช่หวังกำไรมากกว่าแนวรับแนวต้านถัดไป เพราะไม่มีทางรู้เลยว่าราคาจะวิ่งทะลุไปได้หรือเปล่า แม้ทะลุไปได้โอกาสที่จะผ่านไปก็มีน้อย ยังไงก็ไม่คุ้มเสี่ยง
เทรดเดอร์คนหนึ่ง เทรดโดยที่ไม่ตั้ง Take Profit แต่ใช้วิธีการปิดมือ คือจะต้องเฝ้าจอรอปิดเพื่อทำกำไรตามแผนที่วางไว้ เช่น อาจจะรอให้กราฟส่งสัญญาณในการเปลี่ยนทิศทางก่อน แล้วจึงจะทำการปิด วิธีนี้สามารถใช้ได้ไหม แน่นอนว่าสามารถใช้ได้สำหรับผู้ที่รันเทรน หรือถือออเดอร์ตามแนวโน้มใหญ่ และในช่วงที่จะปิดทำกำไร จะต้องยอมรับได้ที่กำไรเหลือน้อยลง
ส่วนการตั้ง Take Profit คือกลุ่มเทรดเดอร์ที่ใช้ระบบ Swing Trade หรือระบบที่หวังจุดเข้าที่สวยที่สุด และจุดทำกำไรที่สวยที่สุด โดยการตั้งเอาไว้ล่วงหน้าตามแผนนั่นเอง และเมื่อมีการวางแผนล่วงหน้า ก็จะไม่ต้องเฝ้ากราฟ และมีโอกาสทำกำไรมากกว่า ส่วนหนึ่งคือช่วยลดโอกาสในการโดนตลาดปั่นหัวได้อีกด้วย
ดังนั้น Take Profit หรือการปิดทำกำไร คือสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนจะมองข้ามไม่ได้ นอกจากการตั้ง SL (Stop Loss) เพื่อไว้เป็นทางหนีกรณีผิดทาง ยังต้องวางแผนเพื่อ Take Profit เพื่อทำกำไร และที่สำคัญโอกาสทำกำไรจะต้องมากกว่า ขาดทุนเสมอ และเมื่อวางแผนไว้ดีแล้ว ก็ต้องทำตามแผนให้ได้ 100% หนทางแห่งการเติบโตของพอร์ต อยู่ไม่ไกลถ้าใช้เป็นเห็นกำไรแน่นอน
