ทำไมสกุลเงินดอลลาร์ถึงสำคัญ? วันนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับสกุลเงินดอลลาร์ ว่าทำไมสกุลเงินดอลลาร์นั้นถึงเป็นสกุลเงินหลักของโลกได้..
สกุลเงินหลักของโลกนั้นก็คือสกุลเงินที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ในการใช้ทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ที่เป็นที่นิยมที่สุดก็ได้แก่ US Dollar สกุลเงินEuro และก็ เยน และอีกชื่อเรียกนึงสำหรับเงินสกุลหลักในการบันทึกเงินสำรองหรือว่าเงินสำรองระหว่างประเทศนั่นเองครับ
สกุลเงิน US Dollar เป็นสกุลเงินที่เป็นที่นิยมมากที่สุดจากการที่เป็นสกุลเงินที่ถูกเก็บสำรองเอาไว้เป็นเงินสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 64% ของธนาคารทั่วโลกครับ ข้อเท็จจริงก็คือแสดงให้เห็นว่าสกุลเงินทั่วโลกในขณะนี้มีประมาณ 185 สกุลเงินตามองค์การมาตรฐานระหว่างประเทศนะครับ ส่วนใหญ่ของสกุลเงินเหล่านี้ ใช้กันเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นสกุลเงินใดก็ได้ ที่อาจจะมีโอกาสมากที่รับ US Dollar มาเป็นเงินทุนสำรองในประเทศ
ในทางทฤษฎีการเป็นเงินสำรองหรือว่าเงินสกุลหลักที่สำคัญก็คือเงินสกุลยูโรนะครับซึ่งถูกเก็บสะสมอยู่ในรูปของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางทั่วโลกแต่ว่ามีเพียงแค่ 19% เท่านั้น จากตัวเลขข้อมูลล่าสุด
ในควอเตอร์ที่ 2 ของปี 2017 ที่ผ่านมานี้เองโอกาสที่เงินสกุลยูโรนะครับกลายมาเป็นเงินสกุลหลักของโลกมีเพิ่มมากขึ้น จากการที่วิกฤตการณ์ทางการเงินในยุโรปได้คลี่คลายลงไป
แต่ว่าอย่างไรก็ตามวิธีการทางการเงินก็ดูจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้สกุลเงิน จะกลายเป็นสกุลเงินหลักของโลกได้เมื่อขึ้นอยู่ที่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวสนับสนุนให้กับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ ดอลลาร์และเป็นค่าเงินที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่งที่สุด ในปริมาณเงินดอลลาร์ในขณะนี้นะครับที่ใช้กันอยู่นอกประเทศสหรัฐมีสูงถึง 580 ล้านดอลลาร์ว่าประมาณ 65% ของเงินดอลลาร์ในโลกทั้งหมดเลยและก็มีประมาณ 1 ใน 3 ของ GDP ของโลกในการมาจากกลุ่มประเทศที่ผูกค่าเงินในประเทศตัวเองไว้กับสกุลเงินดอลลาร์นะครับประมาณ 98 ประเทศที่พยายามจะรักษาค่าเงินของตัวเองให้อยู่ในกรอบแคบเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์
ในตลาด Forex มากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่ามีการซื้อขายเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ 39% ของตราสารที่ทั่วโลก ออกเป็นสกุลเงินดอลลาร์อีกด้วยนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมธนาคารต่างชาติซึ่งมีความต้องการเงินดอลลาร์ที่ค่อนข้างสูงเพื่อเหตุผลในการดำเนินธุรกิจในการทำธุรหรรมต่างๆนั่นเองครับ
ตัวอย่างเช่นในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินของโลกในปี 2018 นั้นเป็นการธนาคารต่างชาติมีหนี้ระหว่างประเทศสูงถึง 27 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินดอลลาร์สูงถึง 18 ล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียวซึ่งธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาก็ได้พยายามที่จะเพิ่มช่องทางในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ เพื่อเป็นการการันตีว่าธนาคารโลก World Bank จะไม่มีช่วงเวลาในการขาดแคลนเงินดอลลาร์ซึ่งวิกฤตการณ์ทางการเงินของโลกนั้นทำให้เงินดอลลาร์นั้นยิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้นเขาอีก
ในปี 2017 ที่ผ่านมา ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เยอรมันแล้วก็ฝรั่งเศสและอังกฤษ มีหนี้สินในสกุลเงินดอลลาร์มากขึ้นด้วย เพื่อเป็นมาตรการในการป้องกันวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกกันเอง ซึ่งเป็นภาวะที่เงินดอลลาร์นั้นขาดมือและปัจจัยที่จะเพิ่มโอกาสในการเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินของโลกนั้นก็คือการที่ FED หรือว่าธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกานั้นมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนะครับซึ่งแปลว่าทำให้อุปทานในสกุลเงินดอลลาร์และลดต่ำลง ทำให้มูลค่าของเงินดอลลาร์นั้นมีค่าแพงขึ้นในการกู้ยืมกันระหว่างธนาคารอเมริกา
ตัวชี้วัดอีกตัวนึงก็คือความต้องการเงินดอลลาร์ของรัฐบาลในการเพื่อเป็นเงินสำรอง สำหรับใช้จ่ายเพื่อทำธุรกรรมระหว่างประเทศกับของประเทศต่างๆและยังได้มาจากการดำเนินธุรกิจภายในประเทศด้วย นอกจากนี้รัฐบาลบางประเทศนั้น ยังลงทุนด้วยการใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอีกด้วยอย่างเช่นจีนและญี่ปุ่นทั้งนี้เพื่อเหตุผลในการทำให้ค่าเงินของประเทศตนเองในการมีมูลค่าที่ถูกจำกัดเอาไว้หรือว่ามีมูลค่าถูกกว่าคู่แข่งทางการค้าเพื่อเป็นการส่งเสริมการส่งออกของประเทศอีกด้วยครับ
ย้อนกลับไปในปีประมาณช่วง 1944 ครับในช่วงของข้อตกลง Bretton Woods System ได้เริ่มขึ้นไปนั้นเป็นตัวทำให้เงินดอลลาร์เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการเป็นสกุลเงินหลักในโลก ซึ่งในเวลานั้น สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ถือครองทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศไว้ รวมกันของหลายๆประเทศมากที่สุดในขณะนั้น และได้การผูกค่าเงินไว้กับเงินดอลลาร์แทนทองคำนั้นเองครับ
ต่อมาในปี 1970 หลายๆประเทศนั้นมีความต้องการตรงข้ามมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินสกุลดอลลาร์ที่เขามีอยู่ ด้วยเหตุผลในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อนั้นเองในการ์ดมิฉะนั้นเนี่ยมูลค่าของเงินดอลลาร์นะครับจะถูกเงินปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งในช่วงเวลานั้นประธานาธิบดีนิกสันในการก็ได้ประกาศแยกการผูกเงินดอลลาร์ออกจากทองคำตั้งแต่นั้นมา ดอลลาร์ก็กลายเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศที่ดูเหมือนว่าจะมีความโดดเด่นมากที่สุดนั่นเอง
และในช่วงเดือนมีนาคมปี 2009 ที่ผ่านมานี้ จีนและประเทศรัสเซีย ได้พยายามที่จะเรียกร้องให้มีสกุลเงินหลักของโลกคนใหม่เกิดขึ้นแทนที่เงินดอลลาร์เนื่องจากว่าเขาต้องการให้มีสกุลเงินที่เป็นเงินสกุลหลักใหม่ในการเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ
เนื่องจากหลายๆประเทศได้มีความกังวล เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นกับค่าเงิน US Dollar นั้นเองซึ่งเงินเฟ้อนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสหรัฐอเมริกานั้นนะครับมีการดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลในเรื่องของการใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาและมีการออกพันธบัตรรัฐบาลที่มากขึ้นในการเป็นหนี้ต่างประเทศมากขึ้นและทำให้ จีนมีความต้องการในการในการที่จะเรียกร้องไปถึง International monetary fund ในการเรียกร้องเพื่อที่จะมีการพัฒนาสกุลเงินใหม่ขึ้นมาแทนที่
ตอนแรกและในช่วงประมาณของปี 2016 ที่เห็นได้ว่าสกุลเงินของจีนเลยได้กลายมาเป็นรายการสกุลเงินสำรองที่สำคัญสกุลนึงนะครับของโลกเลยเนื่องจากว่าในช่วงประมาณไตรมาสที่ 3 นะครับของปี 2017 และในธนาคารกลางของโลกนะครับได้ถือครองสกุลเงินหยวนเพิ่มมากขึ้นถึง 1800 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว เริ่มต้นที่เล็กๆเลยครับแต่มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นไปในการเนื่องจากว่าประเทศจีนนั้นได้กำลังพยายามที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นเองนี่ก็เป็นประเด็นที่จะพูดคุยทั้งหมดในการเกี่ยวกับและความรู้ทางเรื่องสกุลเงินดอลลาร์ในหวังว่าทุกท่านคงเข้าใจถึงสกุลเงินดอลลาร์ ไม่มากก็น้อย ขอบคุณครับ..